สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การประชุมกลุ่มผู้นำชาติยุโรปเพื่อหามาตรการสกัดกั้นมิให้ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ประสบภาวะล้มละลายอาจช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความรุนแรงในตลาดสินเชื่อที่เป็นภัยคุกคามเศรษฐกิจโลกได้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08.38 น.ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดสิงคโปร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 80.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 3.37 ดอลลาร์ไปอยู่ที่ระดับ 81.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ภายหลังการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก
ราคาน้ำมันดีดตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังจากที่ชาติยุโรป 15 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกันเห็นพ้องที่จะให้ความช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ และหามาตรการต่างๆซึ่งรวมถึงการที่อังกฤษเข้าซื้อหุ้นของโรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ และเอชบีโอเอส ขณะที่อิหร่านซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกจะเรียกร้องให้โอเปคลดกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับอุปสงค์น้ำมันที่ปรับตัวลดลงในที่ประชุมเดือนหน้า
"ทุกคนกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่ยื่นมือเข้าแทรกแซงตลาดซึ่งส่งผลกระทบในแง่บวก หรืออย่างน้อยก็ช่วยลดความตื่นตระหนกลงได้" โทบี้ ฮาสแซลล์ นักวิเคราะห์จาก Commodity Warrants Australia Pty กล่าว "อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในตลาดยังคงซบเซา"
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าดิ่งลง 17% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดใน 1 สัปดาห์นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์บุกอิรักที่นำโดยสหรัฐในเดือนมี.ค.2546
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--