ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันดิบปิดบวก $3.49 จากข่าวโอเปคเล็งลดเพดานผลิต

ข่าวต่างประเทศ Tuesday October 14, 2008 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง และจากการที่นักลงทุนหันเข้าเทรดในตลาดการเงินเพราะเชื่อว่ามาตรการที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้เพื่อฟื้นฟูระบบการเงินั้น จะช่วยยับยั้งเศรษฐกิจโลกจากภาวะถดถอยได้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นหลังจากมีรายงานว่ากลุ่มโอเปคเตรียมออกมาเคลื่อนไหวเพื่อลดเพดานการผลิต โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 82.52 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 3.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 13.1 เซนต์ ปิดที่ 2.341 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 11.06 เซนต์ ปิดที่ 1.9176 ดอลลาร์/แกลลอน
จิม ริทเทอร์บุช หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท Ritterbusch and Associates ในรัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า "ตลาดน้ำมันนิวยอร์กขานรับการพุ่งขึ้นของดาวโจนส์ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คลายความวิตกกังวลและเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง หลังจากมีข่าวว่าประเทศทั่วโลกร่วมมือกันใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงิน"
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ร่วมกับกลุ่มประเทศ G7 ประกาศใช้มาตรการต้านวิกฤตการเงินทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมถึงการใช้เครื่องมือทั้งหมดเท่าที่มีเพื่อสนับสนุนสถาบันการเงินที่มีความสำคัญในเชิงระบบ ขณะที่กลุ่มผู้นำยุโรปประกาศใช้มาตรการรับมือกับปัญหาในระบบการเงิน ซึ่งครอบคลุมถึงการรับประกันเงินกู้ยืมระหว่างธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จับมือกับ 4 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศใช้มาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นสภาคล่องในตลาดสินเชื่อสกุลเงินดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะจัดหาสภาพคล่องที่ง่ายต่อการเข้าถึงและระดมเงินทุนให้กับสถาบันการเงิน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ประกาศจัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านการเงินทั่วโลกที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเคลื่อนไหวของโอเปคครั้งนี้ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า โอปคจะถือโอกาสลดเพดานการผลิต เพื่อสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมัน
โอเปคออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซท์ว่า รัฐมนตรีพลังงานกลุ่มโอเปครู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก จึงมีมติให้จัดประชุมฉุกเฉินที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแล้วกว่า 40% นับตั้งแต่ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินทั่วโลกส่งผลให้ประชาชนและภาคธุรกิจทั่วโลกลดการใช้พลังงาน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ประกาศลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในพ.ศ. 2551-2552 ลงเหลือ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิมที่คาดไว้ระดับเดิมที่ 110 ดอลลาร์ และได้ปรับลดเป้าหมายราคาน้ำมันในช่วงสิ้นปีเหลือ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับเดิมที่ 115 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ