ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 16.50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าเทรดในตลาดหุ้นหลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน และธนาคารกลางหลายแห่งประกาศใช้มาตรการกระตุ้นสภาพคล่อง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 842.50 ดอลลาร์ ร่วงลง 16.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 824.50-875.0 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 10.79 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 19.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 10.79 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 997.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 203.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์
จอห์น รีด นักวิเคราะห์จากธนาคาร UBS กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ราคาทองคำทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและระบบการเงินทั่วโลกทำให้ทองคำเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง แต่การที่ธนาคารกลางและรัฐบาลของประเทศทั่วโลกร่วมใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงิน ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นและแห่เข้าเทรดในตลาดหุ้นอย่างล้นหลาม ซึ่งทำให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 900 จุด"
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้น 936.42 จุด หรือ 11.08% ปิดที่ 9,387.61 จุดเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.พ.ศ.2543 เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่าประเทศยักษ์ใหญ่ทั่วโลกร่วมมือกันใช้มาตรการฟื้นฟูระบบการเงิน รวมถึงการที่คณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้จัดประชุมร่วมกับผู้บริหารธนาคารชั้นนำเพื่อหารือกันเรื่องแผนการซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงิน และกลุ่มผู้นำยุโรปร่วมประกาศมาตรการอุ้มสถาบันการเงินและจัดสรรงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อปกป้องธนาคารในยุโรป
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--