ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) โดยในระหว่างวันราคาดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 800 ดอลลาร์/ออนซ์เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะฉุดรั้งความต้องการพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทต่างๆให้ทรุดตัวลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 804.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 34.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 786.70-852.10 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 9.635 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 54.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 12.5 เซนต์ ปิดที่ 2.0855 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 891.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 83.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 173.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 22.50 ดอลลร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Bullion Dealers Montreal กล่าวว่า ราคาทองร่วงลงอย่างหนักเพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าวิกฤตการณ์สินเชื่อที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกถดถอยลงจะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ทรุดตัวลงด้วย ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระตุ้นแรงขายในตลาดน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท รวมถึงทองคำ
เมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 4.69 ดอลลาร์ หรือ 6.29% ปิดที่ 69.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 10 ต.ค.พุ่งขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 308.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินทะยานขึ้น 7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 193.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 600,000 บาร์เรล