อินโดนีเซียเดินหน้าแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ ด้วยการลดปริมาณการผลิตยางลง 30% โดยเป็นหนึ่งในความพยายามเพื่อฟื้นฟูราคายางในตลาดโลก หลังจากที่ราคายางร่วงลงจากระดับ 2.5 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม มาอยู่ที่ระดับ 1.6 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม โดยมีสาเหตุมาจากความต้องการยางที่ลดลงอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
แอนตัน อาปริอันโตโน รมว.เกษตรของอินโดนีเซีย คาดว่า การลดปริมาณการผลิตดังกล่าวจะช่วยให้ราคายางขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกยางในอินโดนีเซีย
รมว.เกษตรกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า "เราได้เริ่มมาตรการดังกล่าวแล้ว โดยขอให้ผู้ปลูกยางลดความถี่ในการกรีดยาง เพื่อที่ผลผลิตจะได้ลดลง"
สำนักสถิติของอินโดนีเซียเผยว่า อินโดนีเซียผลิตเนื้อยางแห้งได้ 450,526 ตันในปี 2549 โดยอินโดนีเซีย ร่วมกับไทย และมาเลเซีย ถือเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลก ด้วยผลผลิตรวมกันคิดเป็น 80% ของผลผลิตยางทั่วโลก
ทั้งนี้ ทั้งสามประเทศจะประชุมร่วมกันในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นคลังสำรองและอุปทานยางท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง หลังจากที่ในช่วงต้นยุค 2000 อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ได้ร่วมมือกันควบคุมอุปทานยางและสามารถช่วยให้ราคายางฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีได้