ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 16.8 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านใหม่ที่ร่วงลงเกินความคาดหมาย และมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงในเดือนต.ค. นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาทองดิ่งลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.8 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 787.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 9.335 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 9.4 เซนต์ ปิดที่ 2.1795 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 10.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 881.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 174.50 ดอลลาร์/ออนซ์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Bullion Dealers กล่าวว่า "นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาทองคำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์หลังจากตัวเลขสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐดิ่งลงเกินคาด ก่อนหน้านี้เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นักลงทุนมักเข้าซื้อสัญญาทองคำเพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง แต่สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจ"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ประจำเดือนก.ย.ร่วงลง 6.3% แตะที่ 817,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับลงเพียง 2.6% แตะระดับ 872,000 ยูนิต
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 57.5 จุด จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 70.3 จุด