ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $3.36 หลังดอลล์แข็ง,นักลงทุนเมินกระแสคาดโอเปคลดผลิต

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 22, 2008 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 71 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลบดบังกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดเพดานการผลิต ทั้งนี้ การที่ดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่องทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ และแห่เข้าซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 3.36 ดอลลาร์ หรือ 4.53% ปิดที่ 70.89 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.77-75.69 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.28 เซนต์ ปิดที่ 2.1771 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 2.82 เซนต์ ปิดที่ 1.6919 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

คอสทันซา จาคาซิโอ นักวิเคราะห์จาก Barclays Capital ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อคลี่คลายลงบ้างแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงค์ที่ปรับตัวลดลง และจากข่าวที่ว่าสภาคองเกรสอาจอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาผลักดันเรื่องนี้ด้วยตนเอง

"ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นกดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ รวมถึงน้ำมันดิบ ทำให้ราคาดิ่งลงกว่า 3 ดอลลาร์ และยังฉุดสัญญาน้ำมันประเภทอื่นๆร่วงลงด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบแม้กลุ่มโอเปคส่งสัญญาณว่าจะลดเพดานการผลิตก็ตาม" จาคาซิโอกล่าว

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการที่โอเปคประกาศเลื่อนการประชุมฉุกเฉินให้เร็วขึ้นเป็นวันที่ 24 ต.ค.จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 18 พ.ย. ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า โอเปคจะใช้การประชุมฉุกเฉินครั้งนี้เป็นโอกาสในการลดเพดานการผลิตลงประมาณ 1 ล้านบาร์เรล หรือมากกว่า เนื่องจากรัฐมนตรีกลุ่มโอเปคมีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก

ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของโอเปคได้ส่งสัญญาณมาโดยตลอดว่าอาจมีการลดเพดานการผลิต โดยนายกาโล่ ชีริโบกา รองประธานโอเปคกล่าวว่า "ความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันและการใช้น้ำมันในสหรัฐ ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้กลุ่มโอเปคต้องปรับเปลี่ยนการผลิตน้ำมันให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ