ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 22 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกลุเงินหลักๆ นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.768 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 22 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 766.40-805.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 10.075 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 38.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 10.95 เซนต์ ปิดที่ 2.007 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 891.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 0.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. 183.10 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 3.05 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Bullion Dealers ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "ตลาดทองคำนิวยอร์กถูกดดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์และแห่เข้าเทรดในตลาดปริวรรตเงินตรา เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางในหลายประเทศรอบนอกสหรัฐจะลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก"
เนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกอาจร่วงลงเพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวลง โดยดัชนีสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงกว่า 21% ในปีนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง รวมถึงภาคการผลิตและการก่อสร้างที่ซบเซาส่งผลให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง