สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ยังคงพุ่งขึ้นในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นความต้องการพลังงานให้พุ่งสูงขึ้นด้วย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ซึ่งซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ พุ่งขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.4% แตะที่ 68.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ที่ 67.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
แอนโทนี ฮาล์ฟ นักวิเคราะห์จาก Newedge USA LLC กล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดจะช่วยกระตุ้นความต้องการพลังงานในสหรัฐให้พุ่งสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเย็นวานนี้ และธนาคารกลางยุโรปมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยลงด้วยนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าความต้องการพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เฟดมีมติลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) 0.50% สู่ระดับ 1.00% และลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) 0.50% สู่ระดับ 1.25% โดยมีเป้าหมายสกัดกั้นเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 24 ต.ค.ขยับขึ้นเพียง 500,000 บาร์เรล แตะระดับ 311.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ พุ่งขึ้น 2.33 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 126.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 195.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.5% แตะระดับ 85.3%