ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 15.50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ที่หดตัวลงอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงอย่างหนักจะทำให้ความต้องการทองคำลดน้อยลงด้วย นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นและราคาน้ำมันดิบร่วงลง นับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาทองร่วงลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 738.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 15.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 733-778.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 9.785 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 19.75 เซนต์ ปิดที่ 1.8905 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 830.60 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 14.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 196.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 40 เซนต์
แมทท์ เซแมน หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท LaSalle Futures ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำอย่างหนักหน่วง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าจีดีพี หดตัวลง 0.3% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการติดลบรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและภาคธุรกิจลดการลงทุน
"นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 2.28% ปิดที่ 65.96 ดอลลาร์/บาร์เรล และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนและยูโร ยังฉุดราคาทองปิดร่วงลงด้วย จีดีพีไตรมาส 3 ที่หดตัวลงอย่างรุนแรงสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว ซึ่งอาจทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกทองคำและน้ำมัน ลดน้อยลง" เซแมนกล่าว