ผู้ผลิตยางของอินโดนีเซียได้ลดราคายางธรรมชาติ หรือ ยางพารา ลงเหลือ 2 ดอลลาร์สหรัฐ/กิโลกรัม เนื่องจากความต้องการในตลาดต่างประเทศที่ลดลง หลังจากที่ราคายางธรรมชาติในตลาดโลกเคยแตะถึง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ/กิโลกรัม ในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูงสุด
มารี เอลกา ปังเกสตู รมว.การค้าของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า การตัดสินใจลดราคายางดังกล่าวได้รับการแนะนำโดยสภาความร่วมมือไตรภาคียางพาราระหว่างประเทศ (ITRC) และบริษัทร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศจำกัด (IRCo) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกคือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ที่ประชุม ITRC ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหามาตรการสกัดกั้นไม่ให้วิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบต่อตลาดยางโลกให้ตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด โดยที่ประชุมได้ตกลงใช้มาตรการร่วมกันเพื่อสร้างเสถียรภาพให้ตลาดยางโลก ได้แก่ การจำกัดปริมาณการส่งออก (AETS) และการเข้าแทรกแซงเพื่อซื้อยางในตลาดและเก็บยางไว้ในสต็อก (SMO) สำหรับการแก้ปัญหาในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวนั้น ประเทศสมาชิกจะต้องมีการบริหารจัดการอุปทานที่ดี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก สามารถผลิตยางได้ 2.8 ล้านตันในปี 2550 ขณะที่ไทยและมาเลเซีย รั้งอันดับ 1 และ 3 ตามลำดับ ด้วยปริมาณการผลิต 3 ล้านตัน และ 1.2 ล้านตันในปีเดียวกัน ซึ่งผลผลิตยางของทั้งสามประเทศคิดเป็น 80% ของผลผลิตทั่วโลก