ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรแม้ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นและราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างหนักก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 726.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ เคลื่อนตัวในช่วง 721.80-739.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 9.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.00 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 827.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลบ 4.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 202.30 ดอลลาร์/ออนซ์ บวก 2.75 ดอลลาร์
ราคาทองคำดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกได้เพราะนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร แม้ตลาดต้องเผชิญแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นและราคาน้ำมันดิบทีร่วงลง 3.90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ก็ตาม
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กมีแนวโน้มร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนจำนวนมากย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดทองคำ และหันเข้าเทรดในตลาดปริวรรตเงินตรา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านโลหะมีค่าจาก Standard Bank คาดการณ์ว่า ความเชื่อมั่นในตลาดทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้อัดฉีดสภาพคล่องเป็นวงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางสิงคโปร์ ธนาคารกลางบราซิล และธนาคารกลางเม็กซิโก ผ่านการทำข้อตกลงสว็อปค่าเงิน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เฟดตัดสินใจกระตุ้นสภาพคล่องให้กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่