ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่าสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเกินความคาดหมาย ซึ่งทำให้นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอย่างหนักกำลังฉุดความต้องการพลังงานทั่วโลกลดลง โดยนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาเดือนธ.ค.อย่างหนักแม้บารัค โอบามา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และแม้ว่ากลุ่มโอเปคส่งสัญญาณว่าจะลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอีกก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 10.83 เซนต์ ปิดที่ 1.4244 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 10.69 เซนต์ ปิดที่ 2.0547 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปีเตอร์ บูเทล นักวิเคราะห์จาก Cameron Hanover กล่าวว่า นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากกว่าที่จะซึมซับปัจจัยบวกจากการที่ โอบามา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเหนือนายจอห์ แมคเคน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้ พรรคเดโมแครตยังได้ครองเสียงข้างมากเพิ่มขึ้นทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ทางพรรคสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วในการผลักดันนโยบายของนายโอบามา
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงข้อมูลจาก ADP Employer Services ที่บ่งชี้ว่า ภาคเอกชนลดการจ้างงานลงมากที่สุดในรอบ 6 ปีในเดือนต.ค. และแผนการปลดพนักงานของบริษัทเอกชนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐหดตัวลง อย่างรุนแรงในเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ต.ค. ทรงตัวที่ระดับ 311.9 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 196.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 127.8 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
รายงานระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในอ่าวเม็กซิโกเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม สหรัฐยังคงปิดการผลิตน้ำมันราว 246,103 บาร์เรลต่อวัน หรือ 18.9% ของกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโกในวันพุธ โดยลดลงจากระดับ 27.7% ในวันที่ 30 ต.ค. ขณะที่บริษัทพลังงานยังคงฟื้นฟูการผลิตหลังจากพายุเฮอริเคนพัดกระหน่ำอ่าวเม็กซิโกในเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มโอเปค หลังจากเลขาธิการโอเปคเปิดเผยว่า โอเปคอาจจัดประชุมอีกครั้งก่อนเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาเรื่องการลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอีก หลังจากที่โอเปคมีมติลดการผลิตน้ำมันลง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมฉุกเฉินที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา