ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย โดยกระแสความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวปกคลุมอยู่ทั่วตลาดจนบดบังชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายบารัค โอบามา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 742.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 14.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 735.70-770.0 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 10.455 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้ 32.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 13.90 เซนต์ ปิดที่ 1.8190 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 880.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 22.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนธ.ค.ปิดที่ 219.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์
เอ็ดเวิร์ด แมร์ นักวิเคราะห์จาก MF Global กล่าวว่า "ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างรุนแรงแม้โอบามาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี และนับเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่พรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากเพิ่มขึ้นทั้งในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งสภาวะเช่นนี้เป็นเพราะนักลงทุนยังคงขาดความเชื่อมั่นและวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย"
นักลงทุนเทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันและทองคำ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงข้อมูลจาก ADP Employer Services ที่บ่งชี้ว่า ภาคเอกชนลดการจ้างงานลงมากที่สุดในรอบ 6 ปีในเดือนต.ค. และแผนการปลดพนักงานของบริษัทเอกชนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐหดตัวลง อย่างรุนแรงในเดือนต.ค.