ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ หลังจากธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษมีมติลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 732.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 10.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 10.055 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 40.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9.35 เซนต์ ปิดที่ 1.7255 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 838.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 41.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 222.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์
ทอม พาวลิกกี นักวิเคราะห์จาก MF Global Research กล่าวว่า ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกลุเงินยูโรและปอนด์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.5% แตะที่ 3% เพื่อบรรเทาความเสียหายอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอย และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ระดับ 3.25% หลังจากเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนชะลอตัวลง
"นอกเหนือจากธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษแล้ว ธนาคารกลางเช็คและสวิตเซอร์แลนด์ยังประกาศลดอัตราดอกเบี้ยด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญวิกฤตการณ์การเงินที่มีจุดเริ่มต้นมาจากสหรัฐ และเราคาดว่าธนาคารกลางในยุโรปลดดอกเบี้ยลงอีกหากวิกฤตการณ์ยังไม่คลี่คลายลง" พาวลิกกีกล่าว