สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ (7พ.ย.) โดยราคาน้ำมันร่วงหลุด 60 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2550 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกได้ทำให้หลายประเทศปรับลดความต้องการเชื้อเพลิง
ราคาน้ำมันดิ่งลง 15% นับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลง 3 วันหนักสุดในรอบกว่า 4 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าในคืนนี้(ตามเวลาในประเทศไทย) กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานประจำเดือนต.ค.ที่ร่วงลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันที่ 200,000 ตำแหน่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9.45 น. ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์อยู่ที่ระดับ 60.27 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิ่งลงหนักสุด 80 เซนต์หรือ 1.3% แตะที่ 59.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
"จุดสนใจของตลาดน้ำมันยังอยู่ที่อุปสงค์เชื้อเพลิง ซึ่งยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์เผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก" เดวิด มัวร์ นักวิเคราะห์จาก Commonwealth Bank of Australia Ltd. ในซิดนีย์กล่าว
โดยในสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดำดิ่งลง 11% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ยอดชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526 ขณะที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานเดือนต.ค.มากที่สุดในรอบ 6 ปีที่ 157,000 ตำแหน่ง ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงความวิตกกังวลว่า ประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยอันจะส่งผลให้มีการจำกัดปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยของสหรัฐในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมามีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 19.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวลดลง 6.7% จากระดับในปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในช่วงเวลาดังกล่าวร่วงลง 2.3% อยู่ที่ระดับ 9 ล้านบาร์เรล/วัน