ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) สัญญาพืชผลปรับตัวสูงขึ้นหลังทางการจีนประกาศทุ่มงบ 5.86 แสนล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
กระทรวงเกษตรสหรัฐรายงานคาดการณ์ผลผลิตซึ่งส่งผลให้สัญญาพืชผลปรับตัวลดลงเกือบตลอดทั้งวัน แต่ในที่สุดสัญญาพืชผลก็ดีดตัวขึ้นมาปิดในแดนบวกเกือบทั้งหมด
โดยทางกระทรวงคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโพดจะอยู่ที่ 1.202 หมื่นล้านบุชเชล ลดลงจากคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วที่ 1.203 หมื่นล้านบุชเชล และน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 1.208 หมื่นล้านบุชเชล ส่วนผลผลิตข้าวโพดต่อเอเคอร์คาดว่าจะอยู่ที่ 153.8 บุชเชล ลดลงจากคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วที่ 153.9 บุชเชล
ผลผลิตถั่วเหลืองคาดว่าจะอยู่ที่ 2.92 พันล้านบุชเชล ลดลงจาก 2.94 พันล้านบุชเชล แต่ตรงกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ ส่วนผลผลิตถั่วเหลืองต่อเอเคอร์คาดว่าจะอยู่ที่ 39.3 บุชเชล ลดลงจาก 39.5 บุชเชลเมื่อเดือนที่แล้ว
แม้ข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อตลาด แต่นักลงทุนกลับให้ความสำคัญกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียและยุโรปปรับตัวสูงขึ้น แต่ตลาดหุ้นสหรัฐกลับไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาหลังเศรษฐกิจโลกซบเซาลงอย่างหนัก ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนดีขึ้น ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และวัตถุดิบในจีนจะกระเตื้องขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ทั่วโลกกระเตื้องขึ้นตามไปด้วยในที่สุด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.บวก 8 เซนต์ ปิดที่ 3.835 ดอลลาร์ต่อบุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.พุ่ง 27 เซนต์ ปิดที่ 9.48 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 1 เพนนี ปิดที่ 5.20 ดอลลาร์ต่อบุชเชล สำนักข่าวเอพีรายงาน