ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากชะลอการลงทุนและบางกลุ่มเทขายทำกำไร เพราะมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกในขณะนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการถือเงินไว้ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังไม่สามารถดีดขึ้นแตะระดับ 10,000 จุด นับเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมาถึงจุดพลิกผันแล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 3.08 ดอลลาร์ หรือ 4.94% ปิดที่ 59.33 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 58.32-62.28 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 7.66 เซนต์ ปิดที่ 1.9290 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 6.20 เซนต์ ปิดที่ 1.3059 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 3.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
เดวิด มัวร์ นักวิเคราะห์จาก Commonwealth Bank of Australia กล่าวว่า นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบหลังจากอดีตนักวิเคราะห์ของ IEA กล่าวว่า IEA อาจจะปรับลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลกในปีพ.ศ.2552 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงทำให้อัตราการใช้พลังงานลดลงด้วย
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล
นิค ชามี นักวิเคราะห์จาก RBC Capital กล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (5.86 แสนล้านดอลลาร์) แต่หลังจากนั้นไม่นาน กระแสตอบรับข่าวดังกล่าวเริ่มแผ่วลงเมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างรุนแรง จึงไม่มั่นใจว่ามาตรการมูลค่า 4 ล้านล้านหยวนจะใช้ได้ผล ซึ่งทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกไปดูความเคลื่อนไหวอยู่นอกตลาด นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ร่วงลงติดต่อกัน 10 เดือนยิ่งทำให้นักลงทุนหวั่นไหวและไม่มั่นใจที่จะเข้าลงทุน"
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูกลุ่มกบฏไนจีเรียที่ขู่ว่าจะโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันหากทหารบุกโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่ม
คริสโตเฟอร์ เมนนิส นักวิเคราะห์จากบริษัทเวฟ เอนเนอร์จี ในรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ไนจีเรียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบคุณภาพสูง แต่เนื่องจากเหตุก่อการร้ายภายในประเทศทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของไนจีเรียลดลงเหลือ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
"กลุ่มคนร้ายที่เรียกตัวเองว่า ขบวนการปลดปล่อยสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ (MEND) ได้เข้าโจมตีและทำลายท่อส่งน้ำมันหลักๆในบริเวณสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำไนเจอร์หลายครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อการผลิตน้ำมันของไนจีเรีย" เมนนิสกล่าว