นายชานนทน์ ภู่เจริญยศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอสพี ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า มั่นใจว่าราคายางพาราไม่ต่ำกว่า 55 บาท/ก.ก และน่าปรับตัวสูงขึ้นไปได้ถึง 90 บาท/ก.ก ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ แต่ราคาขาขึ้นอาจจะไม่ร้อนแรงเหมือนช่วงต้นปี 2551
จากการที่คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นไปหา 100 เหรียญสหรัฐได้อีกครั้งในปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันก็ยังไม่มีแหล่งน้ำมันใหม่ๆที่ค้นพบ ฉะนั้นราคาน้ำมันจะไม่ถูกอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
"เป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในตอนนี้ และเมื่อประเมิณสถานการณ์แล้ว ยางพาราก็น่าปรับตัวสูงขึ้นไปได้ถึง 90 บาท/ก.ก ในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้" นายชานนทน์ กล่าว
ส่วนสาเหตุที่ราคายางพาราในประเทศไทยปรับตัวลดลงกว่า 50% จากราคาสูงสุด 108 บาท/ก.ก. จนเหลือ 55 บาท/ก.ก. เมื่อช่วงเดือนตุลาคมนั้น สาเหตุมาจากความตกใจของชาวสวนยางที่คุ้นเคยการอ้างอิงราคาจากตลาดยางพาราที่ประเทศญี่ปุ่น (TOCOM) และมีนักลงทุนบางกลุ่มเข้าใจสับสนกับตลาด physical ที่เกิดการฉีกสัญญาทิ้งเมื่อราคาขึ้นลงอย่างรุนแรงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา