ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $3.17 แตะ $56.16 หลังสหรัฐลดคาดการณ์อุปสงค์พลังงาน

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 13, 2008 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐคาดว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐจะปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ยังคงรอคอยความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสหรัฐโดยที่ยังไม่มีความคืบหน้า

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.17 ดอลลาร์ หรือ 5.34% ปิดที่ 56.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 55.94-59.50 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9.36 เซนต์ ปิดที่ 1.8354 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาหลังน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 5.78 เซนต์ แตะที่ 1.2481 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดร่วงลง 3.34 ดอลลาร์ แตะที่ 52.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

ฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท เอลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนัก หลังจาก EIA คาดการณ์ว่า ความต้องการพลังงานในสหรัฐอาจร่วงลง 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 5.4% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงรายปีในระดับสูงกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2523 นอกจากนี้ EIA ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาดสหรัฐและตลาดโลกสำหรับปีพ.ศ.2552 ด้วย

เมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่าอาจต้องลดดอกเบี้ยอีก โดยระบุว่าการลดดอกเบี้ยเป็นเรื่องจำเป็นและหากไม่มีการลดดอกเบี้ยลงอีก เศรษฐกิจอังกฤษอาจจะหดตัวลงเกือบตลอดทั้งปีหน้า และอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวต่ำกว่าระดับ 1% ซึ่งเป็นอัตราขั้นต่ำที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้

ทั้งนี้ แบงก์ชาติอังกฤษคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะร่วงลงต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ในช่วงกลางปี 2552 และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใจประเทศจะหดตัวลง 1.8% ต่อปีในช่วง 3 เดือนแรกของปีหน้า โดยอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลงและราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง กำลังจุดกระแสความวิตกกังวลว่า อังกฤษอาจประสบกับภาวะเงินฝืด

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (5.86 แสนล้านดอลลาร์) แต่หลังจากนั้นไม่นาน กระแสตอบรับข่าวดังกล่าวเริ่มแผ่วลงเมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างรุนแรง จึงไม่มั่นใจว่ามาตรการมูลค่า 4 ล้านล้านหยวนจะใช้ได้ผล ซึ่งทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกไปดูความเคลื่อนไหวอยู่นอกตลาด นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ร่วงลงติดต่อกัน 10 เดือนยิ่งทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจที่จะเข้าลงทุน

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) หลังจากมีข่าวว่าซาอุดิอาระเบียจะปรับลดการผลิตน้ำมันเดือนธ.ค.ลง 5% เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการของกลุ่มโอเปค และข่าวที่ว่าโอเปคอาจจัดประชุมอีกครั้งก่อนเดือนธ.ค.เพื่อพิจารณาเรื่องการลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงอีก หลังจากที่โอเปคมีมติลดการผลิตน้ำมันลง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมฉุกเฉินที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ