ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 14.50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจโลกและสหรัฐเสี่ยงที่จะถดถอยยาวนาน ซึ่งจะทำให้ความต้องการโลหะมีค่าจำพวกทองคำลดน้อยลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 718.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 14.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 738.40-711.50 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 9.480 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 32.50 เซนต์ และสัญญาโละทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ ปิดที่ 1.6555 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 825.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 216.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Kitco Bullion Dealers ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า "เม็ดเงินจำนวนมากไหลออกจากตลาดสินค้าโภภัณฑ์ เนื่องจากความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยทำให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบและทองคำ ขณะที่นักลงทุนบางกลุ่มเลือกที่จะถือเงินไว้ในมือเพราะยังไม่อยากเข้าเสี่ยงลงทุนในยามที่เศรษฐกิจยังไร้ทิศทางเช่นนี้"
"เศรษฐกิจโลกและสหรัฐมาถึงจุดวิกฤตแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ก็ควรเข้าซื้อทองคำเพื่อประกันความเสี่ยง แต่ขณะนี้มุมมองดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนไปในทางลบ สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเลือกที่จะไม่เสี่ยง จึงทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ผมคาดว่าราคาน้ำมันดิบ ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ จะร่วงลงอีกหากเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง" เนดเลอร์กล่าว