มอร์แกน สแตนลีย์คาด 3 ปีหน้าราคาทองคำตลาดโลกจ่อคิวพุ่งเหนือ $1,000 หลังผลผลิตทองคำชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 13, 2008 14:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ.2554 เนื่องจากหลากหลายปัจจัย รวมถึงผลผลิตทองคำจากเหมือนทั่วโลกปรับตัวลดลง ต้นทุนการผลิตทองคำในเหมืองพุ่งสูงขึ้น และความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้น

ฮุสเซน อัลลิดินา นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวของบลูมเบิร์กที่สิงคโปร์ว่า "การผลิตทองคำในเหมืองทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเมื่อปีพ.ศ.2544 และเริ่มปรับตัวลดลงนับจากนั้น ในขณะที่ความต้องการทองคำทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการทองคำที่จะนำไปผลิตเป็นอัญมณีเพิ่มขึ้น"

ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 2 เท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาและทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,032.70 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงและราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น แต่ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำดิ่งลงไปแล้ว 31% เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบร่วงลง และวิกฤตการณ์สินเชื่อส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

"ก่อนหน้านี้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดหุ้นและหันเข้าซื้อสัญญาทองคำ แต่ความวิตกกังวลในปัจจุบันคือ 'ภาวะเงินฝืด' ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้จะเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ จากประสบการณ์ของผมพบว่า สินค้าโภคภัณฑ์จำพวกการเกษตรมักได้รับผลกระทบน้อยสุดเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับสินค้าโภคภัณฑ์จำพวกโลหะอุตสาหกรรมและพลังงาน" อัลลิดินากล่าว

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 718.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 14.50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจโลกและสหรัฐเสี่ยงที่จะถดถอยยาวนาน ซึ่งจะทำให้ความต้องการโลหะมีค่าจำพวกทองคำลดน้อยลงด้วย



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ