สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกประจำปี 2552 ลงอีก 670,000 บาร์เรล/วัน หรือ 0.8% มาอยู่ที่ระดับ 86.5 ล้านบาร์เรล/วัน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก
การปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้คาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ขณะที่ IEA ได้ปรับลดแนวโน้มความต้องการน้ำมันประจำปีนี้ลงแล้วถึง 8 ครั้ง พร้อมทั้งปรับลดประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันประจำไตรมาสที่ 4 ลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยว่า เศรษฐกิจเยอรมนีเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 12 ปี เนื่องจากวิกฤตการเงินทั่วโลกส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการใช้จ่าย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไอเอ็มเอฟได้เตือนว่าสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรปจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี
"การคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าบ่งชี้ถึงการเผชิญช่วงขาลงที่รุนแรง" เดวิด มาร์ติน นักวิเคราะห์จาก IEA กล่าว "หากไอเอ็มเอฟปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP เราก็จะต้องปรับลดแนวโน้มปริมาณการใช้น้ำมันให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโลก"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวานนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ลง 43% มาอยู่ที่ระดับ 63.50 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันปรับตัวลดลง โดยในวันนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กร่วงลงต่ำกว่าระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน
ทั้งนี้ การปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันของ IEA มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกที่เลวร้ายลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอันเป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤตการเงิน ซึ่งกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวด้วยเช่นกัน