จีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้เหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลกจะได้อานิสงส์จากการที่บีเอชพี บิลลิตัน ยกเลิกแผนการซื้อกิจการริโอ ทินโต กรุ๊ป เนื่องจากความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการเจรจาปรับลดราคาเหล็กในปีหน้า หลังจากที่ในปีนี้ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น 97% หรือขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี จนส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลกำไร
ชาน ชางหัว เลขาธิการของ China Iron & Steel Association เปิดเผยว่าข้อตกลงซื้อกิจการมูลค่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐระหว่างบีเอชพี และริโอ ทินโต จะทำให้บีเอชพีครองตลาดสินแร่เหล็กได้กว่า 1 ใน 3 ของตลาดและจะทำให้บริษัทขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตทองแดงและอะลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสัญญาดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ผลิตเหล็กหลายราย อาทิ ปอสโคของเกาหลีใต้ นิปปอน สตีล คอร์ป ของญี่ปุ่น รวมถึงเป๋าสตีลของจีน
"การแข่งขันระหว่างบีเอชพีและริโอ ทินโตอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ผลิตเหล็กโดยเฉพาะในยามที่ตลาดมีปริมาณผลผลิตล้นตลาด" ชานกล่าว "แผนการซื้อกิจการเผชิญกับเสียงคัดค้านจากผู้ผลิตจีน ญี่ปุ่น และยุโรป เพราะหากมีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นผู้ผูกขาดการเป็นซัพพลายเออร์สินแร่เหล็กแต่เพียงผู้เดียว"
ทั้งนี้ Australia & New Zealand Banking Group Ltd. เปิดเผยว่า ราคาสินแร่เหล็กอาจร่วงลงถึงครึ่งหนึ่งในปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์เหล็กชะลอตัวลงในขณะที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่ริโอ ทินโต บริษัทซัพพลายเออร์สินแร่เหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกประกาศลดกำลังการผลิตลง 10% เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน