นายชอกรี กาเน็ม ประธานการปิโตรเลียมแห่งลิเบียเปิดเผยว่า ในการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ซึ่งจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 พ.ย.ที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์นั้น กลุ่มโอเปคจะพิจารณาทุกทางเลือกเพื่อสกัดกั้นราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงลงหนักไปกว่าในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการพิจารณาลดปริมาณการผลิต
ขณะที่นายราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีพลังงานของเวเนซูเอลา กล่าวว่า เวเนซูเอลาสนับสนุนโอเปคให้ลดปริมาณการผลิตเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงหลุดจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลให้รายได้ของกลุ่มโอเปคทรุดตัวลงด้วย
ด้านอิหร่านได้ออกมาเรียกร้องให้โอเปคปรับลดการผลิตลงอีกเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมัน โดยเรียกร้องให้โอเปคลดการผลิตลง 1-1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากที่กลุ่มโอเปคพึ่งตัดสินใจลดการผลิตลง 1.5 ล้านบาร์เรลในการประชุมฉุกเฉินเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
มูฮัมหมัด อาลี คาทิบี เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านพลังงานของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านกำลังเจรจากับกลุ่มโอเปคให้ลดการผลิต โดยสมาชิกโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันได้มากกว่า 1 ใน 3 ของผลผลิตน้ำมันทั่วโลกนั้น ต้องการให้ราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 70-100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นอย่างต่ำ ซึ่งหากราคาต่ำลงกว่านี้ ก็เชื่อว่าอุตสาหกรรมน้ำมันโลกจะพบกับปัญหามากมาย
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะร่วงลงจนถึงระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล และเชื่อว่ากลุ่มโอเปคจะไม่สามารถสกัดกั้นการร่วงลงของราคาน้ำมันได้ โดยทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จาก Citi Futures Perspective กล่าวว่า "นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบน้อยมากเพราะความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย บางคนอาจบอกว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่ราคาน้ำมันจะถอยลงไปอยู่ที่ 30 ดอลลาร์ แต่เราเชื่อว่าราคาจะร่วงลงไปจนถึงระดับนั้น"
เมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค ประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันปีหน้าลงเหลือ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จาก 90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังหลายฝ่ายเชื่อว่าโอเปคไม่มีอำนาจพอที่จะหนุนตลาดอีกต่อไป เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันลดลงอย่างหนักในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซบเซา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน