บีเอชพี บิลลิตัน (BHP Billiton Ltd.) หนึ่งในผู้ส่งออกถ่านโค้กรายใหญ่สุดของโลก และ ริโอ ทินโต (Rio Tinto Group) บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลก อาจต้องลดราคาสัญญาถ่านโค้กลง 1 ใน 3 หรือราว 33% ในปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์จากผู้ผลิตเหล็กกล้าลดลง
โดยผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 9 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ราคาถ่านโค้กอาจลดลงเหลือเฉลี่ย 200 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันในปีงบการเงินเริ่มวันที่ 1 เม.ย.2552 จาก 300 ดอลลาร์ต่อเมตริกตันในปีนี้ ทั้งนี้ ตัวเลขที่ได้จากการสำรวจมีตั้งแต่ 140 - 305 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน
แมเรียส คลอปเปอร์ส ซีอีโอของบีเอชพี กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาส่งผลให้ความต้องการเหล็กลดลง ทำให้โรงงานในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือลดการผลิตเหล็กกล้าลง จึงส่งผลให้ความต้องการถ่านโค้กสำหรับการผลิตเหล็กลดลงตามไปด้วย
"สภาพการณ์ของตลาดเหล็กกล้าย่ำแย่ลงอย่างหนักในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา" เจอร์ราด เบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์ด้านพลังงานและเหมืองแร่จากเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ในเมลเบิร์น กล่าว
"สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่งผลให้ความต้องการสินค้าทุกประเภทลดลงในทุกภูมิภาคทั่วโลก" จิม เลนนอน นักวิเคราะห์จากแม็คควอรี่ กรุ๊ป กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12.04 น.ตามเวลาซิดนีย์ หุ้นบีเอชพี ลดลง 3.5% ส่วนหุ้นริโอ ทินโต ร่วง 4.9%