ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) โดยราคาทรุดตัวลงต่ำกว่าระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐออกรายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2550 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังร่วงลงเนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ตัดสินใจเลื่อนการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปจนกว่าจะถึงกลางเดือนธ.ค.
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 5.15 ดอลลาร์ หรือ 9.46% ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 49.05-54.62 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 11.20 เซนต์ หรือ 6.48% ปิดที่ 1.6151 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 9.84 เซนต์ ปิดที่ 1.1112 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 5.52 ดอลลาร์ หรือ 10.3% ปิดที่ 47.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า กระแสความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2550 และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญช่วงขาลงไปจนถึงกลางปีพ.ศ.2552 ซึ่งนับเป็นภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในช่วงปีพ.ศ.2524-2525
ข้อมูลที่ตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำลงอย่างรุนแรง นับเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการเทขาย รวมถึงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.ร่วงลงอย่างหนักถึง 1.2% หลังจากทรงตัวในเดือนก.ย. และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยับลงเพียง 1.0%
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตของโรงงานในสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับ 36.2 จุดในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2525 จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 38.9 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 37 จุด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนายชากิบ เคลิล รมว.พลังงานของอัลจีเรีย ในฐานะประธานกลุ่มโอเปค กล่าวว่า โอเปคตัดสินใจคงกำลังการผลิตไว้เท่าเดิมจนกว่าจะถึงการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่นายอับดัลลา ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค) เผยว่า โอเปคจะลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีก เมื่อประเทศสมาชิกประชุมร่วมกันที่แอลจีเรียในช่วงกลางเดือนนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 8 พ.ย.จะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล