ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงอีก 2.32 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) โดยในระหว่างวันราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ การที่กลุ่มโอเปคไม่ได้ปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.32 ดอลลาร์ หรือ 4.71% ปิดที่ 46.96 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 46.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 5.29 เซนต์ ปิดที่ 1.0583 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 3.19 เซนต์ ปิดที่ 1.5832 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.53 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ 45.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปีเตอร์ บูเทล นักวิเคราะห์จาก Cameron Hanover กล่าวว่า นักลงทุนตื่นตระหนกต่อข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว โดยนักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 5 ธ.ค. ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะร่วงลงอีก 320,000 คน และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 6.8%
บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ คาดว่า จำนวนคนว่างงานในปีพ.ศ.2551 อาจพุ่งขึ้นเป็น 1.5 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคนในปีพ.ศ.2552 หากรัฐบาลสหรัฐไม่ใช้มาตการกระตุ้นเศษฐกิจที่แข็งแกร่งพอ อย่างไรก็ตาม โอบามาวางเป้าหมายที่จะสร้างงานภายในประเทศให้ได้ 2.5 ล้านตำแหน่งในช่วง 2 ปีแรกที่เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ
สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NBER) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีพ.ศ.2550 และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญช่วงขาลงไปจนถึงกลางปีพ.ศ.2552 ซึ่งนับเป็นภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในช่วงปีพ.ศ.2524-2525
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากกลุ่มโอเปคตัดสินใจคงกำลังการผลิตไว้เท่าเดิมในการประชุมเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยโอเปคตั้งเป้าที่จะคงการผลิตเอาไว้จนกว่าจะถึงการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่นายอับดัลลา ซาเลม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปค) เผยว่า โอเปคจะลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีก เมื่อประเทศสมาชิกประชุมร่วมกันที่แอลจีเรียในช่วงกลางเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 8 พ.ย.จะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จาก Oil Price Information Service แสดงความเห็นว่า "ช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันในปี 2551 ได้สิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากกระแสความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย และคาดว่าราคาน้ำมันจะร่วงลงอีกในเดือนม.ค."