ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นกว่า 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าภาคเอกชนของสหรัฐจะสามารถฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจไปได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 783.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ดีดขึ้น 6.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 788.20-761.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 9.615 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 23.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.05 เซนต์ ปิดที่ 1.6005 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 807.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 2.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 173.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.95 ดอลลาร์/ออนซ์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จาก Kitco Bullion Dealers ในเมืองมอนทรีอัล กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นทองคำคึกคักขึ้นเมื่อดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น ขานรับข่าวที่ว่านายอลัน มูลัลลี ซีอีโอฟอร์ด มอเตอร์ ยืนยันว่า บริษัทมีกระแสเงินสดหมุนเวียนมากพอที่จะดำเนินธุรกิจได้ตลอดปี 2552 และ จีอี ยืนยันว่าสามารถจ่ายเงินปันผลได้ต่อไปแม้ผลประกอบการไตรมาส 4 มีแนวโน้มชะลอตัวลงและเศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการณ์ขาลงก็ตาม
นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรนับเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อสัญญาทองคำ โดยดอลลาร์อ่อนตัวลงแม้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะลดดอกเบี้ยลง 1.50% และคาดว่าธนาคารอังกฤษจะลดดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยรุนแรง