สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 17 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่วางแผนใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กและราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 769.30 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 782.80-754.10 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 9.975 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 54.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 12.45 เซนต์ ปิดที่ 1.4980 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 843.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ทะยานขึ้น 56.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมี.ค.ปิดที่ 175.20 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 12.50 ดอลลาร์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Bullion Dealers กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างหนาแน่น ขานรับข่าวที่ว่า โอบามา วางแผนกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 เพื่อสร้างงานอย่างน้อย 2.5 ล้านตำแหน่งภายในปีพ.ศ. 2553
ขณะเดียวกันมีรายงานว่ารัฐบาลจีนเตรียมใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าสูงถึง 5.86 แสนล้านดอลลาร์ และรัฐบาลอินเดียที่วางแผนจัดสรรรงบประมาณเพิ่มเติม 4 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ เพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นหลังจากเกิดเหตุโจมตีนครมุมไบ
การประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขจ้างงานของโอบามามีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 34 ปีที่ระดับ 533,000 ตำแหน่ง และร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค.