ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก $1.45 จากข่าวลือซาอุดิอาระเบียลดการผลิตน้ำมัน

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 11, 2008 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนตลอดทั้งวัน โดยในระหว่างวันราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากมีข่าวลือว่าซาอุดิอาระเบียเตือนหลายประเทศที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ว่า ซาอุดิอาระเบียอาจลดการผลิตน้ำมันลงในปริมาณที่มาก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในช่วงบ่ายหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 3.4% แตะระดับ 43.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 3.2 เซนต์ ปิดที่ 96.87 เซนต์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 3.42 เซนต์ ปิดที่ 1.40 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ ปิดที่ 42.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท เอลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นรุนแรงในระหว่างวัน หลังจากมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วตลาดว่าซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกที่มีอิทธิพลที่สุดในกลุ่มโอเปค จะลดการผลิตน้ำมันในปริมาณที่มาก ข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่ง ประกอบกับการส่งสัญญาณเตือนของกลุ่มโอเปคที่ว่าจะลดการผลิตน้ำมันในการประชุมสัปดาห์หน้า"

อย่างไรก็ตาม ความร้อนแรงของราคาน้ำมันเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 5 ธ.ค.เพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล หรือ 0.1% สู่ระดับ 320.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 7.7% แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ของแพลท์ส เอนเนอร์จี คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล หรือ 1.9% แตะระดับ 202.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าระดับของปีที่แล้วราว 1.8% และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล พุ่งขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 130.6 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล

ชากิบ คาลิล ประธานกลุ่มโอเปคกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า โอเปคอาจลดเพดานการผลิตน้ำมันลงในปริมาณที่มากพอสมควร เพื่อสกัดกั้นราคาน้ำมันดิบไม่ให้ร่วงลงมากไปกว่านี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจมีขึ้นในการประชุมโอเปคครั้งต่อไปวันที่ 17 ธ.ค.ที่ประเทศอัลจีเรีย

ธนาคารโลกเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะทำให้ทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเงินเฟ้อลดลงต่อไป โดยธนาคารโลกคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลงสู่ระดับเฉลี่ยที่ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2552 และราคาโลหะจะลดลง 26% ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกประจำปี 2552 ลงอีก 670,000 บาร์เรล/วัน หรือ 0.8% มาอยู่ที่ระดับ 86.5 ล้านบาร์เรล/วัน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ