ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและสกุลเงินหลักๆของโลก เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการยับยั้งค่าเงินเยนไม่ให้แข็งค่ามากไปกว่าระดับในปัจจุบัน นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ รวมถึงน้ำมันดิบ ได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 860.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 7.90 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 11.12 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 30.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 7.15 เซนต์ ปิดที่ 1.3015 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 863.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 178.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.90 เซนต์
จอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท คิทโก บุลเลียน ดีลเลอร์ส กล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆโดยเฉพาะเงินเยน เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเคลื่อนไหวในตลาดทองคำนิวยอร์กเมื่อคืนนี้อย่างมาก ซึ่งทันทีที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่ก็กระหน่ำขายสัญญาทองคำทันที และนักลงทุนบางส่วนยังย้ายฐานการลงทุนเข้าไปเก็งกำไรในตลาดปริวรรตเงินตรา
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ที่ร่วงลง 3.84 ดอลลาร์ หรือ 9.59% ปิดที่ 36.22 ดอลลาร์/บาร์เรล