ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดร่วง $2.45 หลังข่าว"โตโยต้า"ขาดทุนจุดกระแสวิตกศก.ถดถอย

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 23, 2008 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงต่ำกว่าระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก อาทิ คาเตอร์พิลลาร์ และโตโยต้า ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวจะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 5.78% ปิดที่ 39.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 39.74-43.44 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 5.05 เซนต์ ปิดที่ 1.3415 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 8.31 เซนต์ ปิดที่ 88.62 เซนต์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.45 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 41.16-44.77 ดอลลาร์

ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท เอลารอน เทรดดิ้ง คอร์ป กล่าวว่า "สัญญาน้ำมันดิบเดือนก.พ.ร่วงลงจากหลากหลายปัจจัย รวมถึงข่าวที่ว่าโตโยต้ามีแนวโน้มขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี และบริษัท คาเตอร์พิลลาร์ เตรียมลดเงินเดือนพนักงาน โดยนักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาน้ำมันดิบเดือนก.พ.ตั้งแต่ช่วงเช้า แม้มีรายงานว่าสภาพอากาศในสหรัฐหนาวเย็นขึ้นและแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงก็ตาม"

คัตซูอากิ วาตานาเบะ ประธานโตโยต้า มอเตอร์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า โตโยต้าซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นปรับคาดการณ์ผลประกอบการปีนี้สิ้นสุดในเดือนมี.ค. ปีหน้า โดยคาดว่าบริษัทจะขาดทุนราว 1.5 แสนล้านเยน (5.9 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกนับตั้งแต่บริษัทเริ่มรายงานผลประกอบการมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2484 หรือในรอบ 67 ปี หลังจากที่บริษัทได้กำไร 2.27 ล้านล้านเยนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกชัดเจนว่าค่ายรถยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่สามารถรอดพ้นจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายังหวังว่า ผลประกอบการสุทธิโดยรวมของทั้งบริษัทจะยังสามารถทำกำไรได้อยู่บ้าง แต่ได้ปรับลดตัวเลขกำไรลงมาอยู่ที่ 5 หมื่นล้านเยน จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ที่ 5.5 แสนล้านเยน

ขณะที่ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่สุดของเกาหลีใต้ และเกีย มอเตอร์ บริษัทในเครือ เตรียมออกแถลงการณ์ลดกำลังการผลิตยานยนต์ โดยแต่ละโรงงานของทั้ง 2 บริษัทจะลดกำลังผลิตเฉลี่ยวันละ 4 ชั่วโมงในเดือนธ.ค.ปีนี้ และงดขึ้นเงินเดือนพนักงานระดับผู้บริหาร หลังจากความต้องการยานยนต์ลดลงเพราะถูกกระทบจากวิกฤติการเงินโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขายของเกียและฮุนไดจะอยู่ที่ระดับ 4.2 ล้านคันในปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 4.8 ล้านคัน

นอกจากนี้ ฮุนได ยังพยายามลดต้นทุนด้วยการปลดพนักงานชั่วคราว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทั้งในยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐ ส่งผลให้ยอดขายลดลงอย่างหนัก ขณะเดียวกันฮุนไดเตรียมปลดพนักงานชั่วคราวเพิ่มเติมในโรงงานที่อินเดียด้วย

ส่วนบริษัทคาเตอร์พิลลาร์ระบุว่า บริษัทเตรียมลดเงินเดือนพนักงานลงประมาณ 50% ซึ่งข่าวดังกล่าวฉุดราคาหุ้นคาเตอร์พิลลาร์ร่วงลง 2.1%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ