สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะไม่สามารถกระตุ้นให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้ฉุดรั้งความต้องการที่ร่วงลงอย่างรุนแรง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.19 น. ตามเวลาซิดนีย์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกปรับตัวลดลง 25 เซนต์หรือ 0.6% แตะที่ 39.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิ่งลง 2.45 ดอลลาร์ หรือ 5.8% แตะที่ 39.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า กลุ่มโอเปคกำลังดำเนินการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน โดยเมื่อเดือนทีผ่านมาญี่ปุ่นมียอดนำเข้าน้ำมันลดลง 17% แตะที่ 3.71 ล้านบาร์เรล/วัน
"ความต้องการใช้น้ำมันของญี่ปุ่นที่ลดลงได้ช่วยอธิบายให้เห็นว่าทำไมโอเปคจึงกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในการกระตุ้นราคาน้ำมัน" อดัม ซีมินสกี้ นักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงก์กล่าว "อุปสงค์ที่ลดลงและน้ำมันสำรองของโอเปคที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศสมาชิกโอเปคมีเป้าหมายเดียวกันคือการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันคูเวตกล่าวเสริมว่า เขาเชื่อมั่นว่าที่ประชุมจะลดโควต้าการผลิตน้ำมันลงอีก โดยเสริมว่าการปรับตัวของราคาน้ำมันเป็นผลจากกลไกอุปสงค์-อุปทานในตลาด
ด้านสำนักงานพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันของสหรัฐไต่ระดับขึ้นเนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันลดน้อยลง ซึ่งนักวิเคราะห์จากบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า น้ำมันสำรองอาจพุ่งสูงขึ้น 900,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา