ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและปอนด์ยังสร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 838.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.10 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 830.40-849.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 10.26 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 60.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 6.45 เซนต์ ปิดที่ 1.2810 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 846.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 10.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 174.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 0.05 ดอลลาร์
ร็อบ เคอร์ซาโคว์สกี นักวิเคราะห์จาก OptionsXpress กล่าวว่า "นักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาทองคำหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ ก่อนหน้านี้เมื่อทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นักลงทุนมักจะเข้าซื้อสัญญาทองคำเพราะมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย แต่สถานการณ์ในขณะนี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงแล้ว
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 3 หดตัวลง 0.5% มากกว่าที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.3% และเป็นสถิติที่หดตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีพ.ศ.2544
ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนพ.ย.ร่วงลง 8.6% เหลือเพียง 4.49 ล้านยูนิตต่อปี จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.91 ล้านยูนิต ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 2.9% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี และราคาบ้านใหม่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 8 เดือน