ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ข่าวโอเปคเล็งจัดประชุมฉุกเฉิน หนุนราคาน้ำมันดิบปิดพุ่ง $2.36

ข่าวต่างประเทศ Saturday December 27, 2008 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.36 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจัดประชุมฉุกเฉินในเดือนมี.ค.ปีหน้าเพื่อหารือเรื่องการสกัดกั้นราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบเป็นเพียงสถานการณ์ในระยะสั้นๆ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.36 ดอลลาร์ หรือกว่า 6% ปิดที่ 37.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 5.17 เซนต์ ปิดที่ 88.4 เซนต์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้น 4.67 เซนต์ ปิดที่ 1.245 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 38.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

จิม ริทเทอร์บุช นักวิเคราะห์จากบริษัท ริทเทอร์บุช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่าโอเปคอาจจัดประชุมฉุกเฉินในวันที่ 19 ม.ค.ปีหน้า ที่ประเทศคูเวต ซึ่งเดิมกำหนดไว้ว่าจะจัดประชุมในวันที่ 15 มี.ค.ปีหน้า ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหารือเรื่องแนวทางการสกัดกั้นราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงลงรุนแรง

ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของโอเปคมีขึ้นหลังจากรัฐมนตรีพลังงานกลุ่มโอเปคมีมติลดกำลังการผลิตลง 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน หรือลดลง 9% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีพ.ศ.2552 ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันของ 11 ประเทศสมาชิกโอเปคลดลงเหลือเพียง 24.845 ล้านบาร์เรล/วัน

รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกที่มีอิทธิพลที่สุดในกลุ่มโอเปคเปิดเผยว่า โอเปคต้องการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมันโลกหลังจากราคาน้ำมันทรุดตัวลงกว่า 100 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดของเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าโอเปคจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมครั้งหน้า ขณะที่รมว.พลังงานคูเวตกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันเดียวกันว่า เขามั่นใจว่าโอเปคจะลดกำลังการผลิตลงอีกในการประชุมครั้งหน้า พร้อมระบุว่าราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเป็นผลมาจากหลากหลายปัจจัย รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคน รวมถึงริทเทอร์บุช มองว่าการที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้เป็นเพียงสถานการณ์ในระยะสั้นๆ เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลงทั้งในช่วงก่อนและหลังคริสต์มาสเป็นสัญญาณบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย

มาสเตอร์การ์ด แอ็ดไวเซอร์ส เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในสหรัฐช่วงเทศกาลวันหยุดร่วงลงอย่างหนักถึง 4% พร้อมระบุว่าตัวเลขการใช้จ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มทำข้อมูลในปี 2545 เนื่องจากผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่ายด้วยการเลือกซื้อเฉพาะสินค้าที่จำเป็น ด้วยการลดการซื้อเสื้อผ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องประดับอัญมณี

นอกจากนี้ ช็อปเปอร์แทร็ค อาร์ซีที ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยผู้บริโภคที่มีชื่อเสียงของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสของสหรัฐร่วงลง 24% จากปีที่แล้ว แม้ห้างร้านในสหรัฐพยายามลดราคาสินค้าลงอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถดึงดูดผู้บริโภคให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้วันหยุดในเทศกาลปีใหม่ของสหรัฐปีนี้เป็นฤดูกาลที่เงียบเหงาที่สุดในรอบ 40 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ