สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลได้บุกโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาเพื่อสู้รบกับกลุ่มฮามาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 คน ซึ่งทำให้แรงตึงเครียดในตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น และกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพราะมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของดอลลาร์ และข่าวที่ว่ารัฐบาลจีนวางแผนที่จะปรับเพิ่มปริมาณน้ำมันในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.31 ดอลลาร์ หรือ 6.13% ปิดที่ 40.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 37.53-42.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 4.03 เซนต์ ปิดที่ 1.2853 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 3.05 เซนต์ ปิดที่ 87.45 เซนต์/แกลลอน
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 38.15-43.18 ดอลลาร์
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้งกล่าวว่า นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคักหลังจากอิสราเอลและกองกำลังฮามาสของปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีกันตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยคณะรัฐมนตรีอิสราเอลมีมติให้เพิ่มกำลังทหารกองทุนอีก 7,000 นาย ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าพร้อมโจมตีทางภาคพื้นดินเป็นระลอกต่อไป เพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาสที่ยิงจรวดเข้าใส่ดินแดนอิสราเอล โดยกองกำลังปาเลสไตน์ได้เข้าทำลายสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ล-อัคซาของกลุ่มฮามาส ซึ่งยังคงสามารถกระจายสัญญาณมาจากสถานที่ลับแห่งหนึ่ง และยังได้โจมตีศูนย์ฝึกทหารของฮามาสแห่งหนึ่งด้วย
ผู้นำอิสราเอลกล่าวว่าการยิงถล่มครั้งนี้เป็นการตอบโต้กองกำลังกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาที่ยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลเกือบทุกวันนับตั้งแต่สิ้นสุดข้อตกลงหยุดยิงเมื่อสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านการทหารของอิสราเอลกล่าวว่า การตอบโต้ครั้งนี้อิสราเอลคงไม่ได้มีเป้าหมายที่จะเข้ายึดครองเขตฉนวนกาซา หรือทำลายรัฐบาลฮามาส เพราะเป็นเป้าหมายที่สูงเกินไปและยังเป็นการเสี่ยงเกินไปเมื่อพิจารณาในแง่ของการหวังผลทางการเมือง เพราะจะมีการเลือกตั้งรัฐสภาอิสราเอลในวันที่ 10 ก.พ.ปีหน้า
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมัน NYMEX ยังคงได้รับแรงหนุนจากข่าวว่าโอเปคอาจจัดประชุมฉุกเฉินในวันที่ 19 ม.ค.ปีหน้า ที่ประเทศคูเวต ซึ่งเดิมกำหนดไว้ว่าจะจัดประชุมในวันที่ 15 มี.ค.ปีหน้า เพื่อหารือเรื่องแนวทางการยับยั้งราคาน้ำมันไม่ให้ร่วงลง แม้ว่าโอเปคได้ลดกำลังการผลิตลง 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน หรือลดลง 9% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล