สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สามหลังจากที่กองกำลังอิสราเอลยาตราทัพเข้าโจมตีฉนวนกาซ่า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มกองกำลังฮามาสที่ดำเนินมานาน 10 วันทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมัน 2 ใน 3 ของตลาดโลก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 8.29 น.ตามเวลาในสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกเคลื่อนไหวแตะที่ 47.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นสูงสุด 2.34 ดอลลาร์ แตะที่ 48.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยเมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบพุ่งชึ้น 3.9% แตะที่ 46.34 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันไต่ระดับขึ้น 23% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัยของความขัดแย้งในฉนวนกาซ่า และข้อพิพาทเรื่องการส่งก๊าซธรรมชาติระหว่างรัสเซียและยูเครน
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์งวดส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.76 ดอลลาร์หรือ 3.8% แตะที่ 48.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่อเนื่องจากที่ทะยานขึ้น 2.9% ไปปิดในระดับ 46.91 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันที่ 2 ม.ค.2552
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันทะยานขึ้นสูงสุด 5% หลังจากที่กองกำลังอิสราเอลหลายพันนายนำทัพบุกโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 3 ม.ค.หลังจากที่ปล่อยให้กลุ่มกองกำลังดังกล่าวใช้จรวดโจมตีอิสราเอล
ด้านเจอราร์ด เบิร์ก นักวิเคราะห์จากเนชั่นเนล ออสเตรเลีย แบงก์ กล่าวว่า "ราคาน้ำมันได้รับแรงขับเคลื่อนจากความเคลื่อนไหวที่เลวร้าย"