สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 48 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่ากองกำลังทหารอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางภาคพื้นดินในเมืองกาซาของปาเลสไตน์ และข่าวที่ว่าเกิดปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการนำเข้าแก๊สระหว่างยูเครนและรัสเซีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่ง 2.47 ดอลลาร์ หรือ 5.33% แตะที่ 48.81 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 45.56-49.28 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 9.60 เซนต์ แตะที่ 1.5763 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 7.19 เซนต์ แตะที่ 1.1824 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่ง 2.71 ดอลลาร์ แตะที่ 49.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบและน้ำมันประเภทอื่นๆ ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า กองกำลังอิสราเอลรุกคืบสู่ใจกลางเมืองฉนวนกาซาเพื่อเป็นการโต้ตอบกลุ่มฮามาสเมื่อวานนี้ ในขณะที่หลายฝ่ายพยายามช่วยหาทางแก้ปัญหาด้วยวิธีทางการทูต ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีย์ ของฝรั่งเศส เดินทางไปยังอิสราเอลเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต ของอิสราเอล ในนครเยรูซาเลม และประธานาธิบดีมาห์มู้ด อับบาส ของปาเลสไตน์ ในกรุงรามัลลาห์ เพื่อมุ่งหวังให้ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
อิสราเอลได้ขยายขอบข่ายการโจมตีในฉนวนกาซา จากการโจมตีทางอากาศสู่ทางบกด้วยทหารหลายพันนาย หวังหยุดยั้งไม่ให้กลุ่มฮามาสยิงจรวดโจมตีเมืองทางภาคใต้ของอิสราเอล โดยตลอด 9 วันที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. อิสราเอลถูกขีปนาวุธยิงถล่มถึง 500 ลูก ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 50 คน และเสียชีวิต 4 คน อย่างไรก็ตาม การโต้กลับของอิสราเอลผ่านปฏิบัติการทางบกทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 56 คน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซ่าทั้งหมดพุ่งเป็น 514 รายแล้ว
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชาวมุสลิมมากกว่า 30 คนได้ออกมารวมตัวกันที่หน้าสถานทูตอิสราเอลในกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เพื่อประณามอิสราเอลที่ส่งกองกำลังเข้าโจมตีฉนวนกาซ่าซึ่งปกครองโดยกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้นดิน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นหลังจากยูเครนออกแถลงการณ์เตือนประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปว่า อาจจะเผชิญกับปัญหาการขนส่งแก๊สขั้นรุนแรง หากยูเครนและรัสเซียยังไม่สามารถยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการตกลงเรื่องราคานำเข้าแก๊สและหนี้สินที่ค้างชำระได้ในเร็ววันนี้
เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานระบุว่า ปัญหาทางด้านเทคนิคอาจจะส่งผลกระทบต่อการลำเลียงแก๊สได้ ขณะที่หลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปรายงานตัวเลขสำรองแก๊สที่ปรับตัวลดลง เพราะความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จนทำให้บริษัท แก๊สพรอม (Gazprom) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัสเซีย ได้ยุติการจัดส่งแก๊สให้กับยูเครนโดยสิ้นเชิงในช่วงเช้าวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยโฆษกของแก๊สพรอมกล่าวว่า ทางบริษัทได้ยุติการจัดส่งแก๊ซจำนวน 90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล