สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระดับที่ลึกขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบดบังความร้อนแรงของข่าวความขัดแย้งระหว่างกองกำลังอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์และภาวะขาดแคลนก๊าสธรรมชาติในยุโรป
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 23 เซนต์ แตะที่ 48.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 6.68 เซนต์ แตะที่ 1.189 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 5 เซนต์ แตะที่ 1.6268 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 91 เซนต์ แตะที่ 50.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท อลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า "นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบทันทีที่สัญญาดีดตัวขึ้นแตะระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะมองว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งในตะวันออกกลางและยุโรปยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะทุ่มซื้อเก็งกำไรในระยะนี้ แต่ปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสำคัญมากกว่าคือข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงภาวะถดถอยในสหรัฐ"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ร่วงลงเกินคาด 4.6% โดยลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีในเดือนพ.ย.
ทหารอิสราเอลและกองกำลังกลุ่มฮามาสยังคงสู้รบกันในฉนวนกาซา หลังจากความพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีทางการทูตประสบความล้มเหลว โดยการสู้รบทางตอนเหนือและบริเวณรอบนอกของฉนวนกาซาค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ทหารอิสราเอลเสียชีวิตแล้ว 3 นาย บาดเจ็บอีกราว 20 นาย อย่างไรก็ตาม นายเอฮุด บารัค รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศว่าอิสราเอลจะดำเนินการทางทหารต่อไปจนกว่ากลุ่มหัวรุนแรงฮามาสจะหยุดยิงจรวดโจมตีชุมชนอิสราเอล
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางรอบนี้ทำให้ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส รุดเข้าพบนายกรัฐมนตรีเอฮุด โอลเมิร์ต ของอิสราเอล ที่นครเยรูซาเลม และเข้าพบประธานาธิบดีมาห์มู้ด อับบาส ของปาเลสไตน์ ที่เมืองรามัลเลาะห์ เพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงโดยเร็วที่สุด นอกจากนั้นนายซาร์โกซียังร่วมมือกับประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ของอียิปต์ เพื่อหาทางแก้วิกฤตที่เกิดขึ้นด้วย
ส่วนข่าวคราวความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) นั้น สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานอ้างการเปิดเผยของนายโมฮัมหมัด อาลี คาทิบี ผู้ว่าการโอเปค ว่า โอเปคตัดสินใจที่จะจัดการประชุมสมัยวิสามัญขึ้นที่คูเวตในเดือนก.พ.นี้ เพื่อหารือเรื่องราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในช่วงขาลง
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล