ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดลบ 50 เซนต์ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบ,เบนซินพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday January 15, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลง 50 เซนต์เมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ความต้องการน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินลดน้อยลง และคาดว่าความต้องการพลังงานจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นในระยะใกล้นี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 50 เซนต์ ปิดที่ 37.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 39.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับ 1.1677 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 5.1 เซนต์ ปิดที่ 1.4631 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 45.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 9 ม.ค.พุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้น 6.7 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวอเมริกันลดการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล พุ่งขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล

ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากอลารอน เทรดดิ้ง กล่าวว่า "สต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐสะท้อนให้เห็นว่า ชาวอเมริกันลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น รวมถึงลดการใช้พลังงานและสินค้าฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ที่ร่วงลงอย่างหนักของสหรัฐยิ่งบ่งชี้ถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ทรุดตัวลงอย่างหนักด้วย ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันอย่างต่อเนื่องแม้มีการคาดการณ์ว่า สภาพอากาศในหลายภูมิภาคของสหรัฐจะหนาวเย็นกว่าปกติ และข่าวความขัดแย้งทั้งในตะวันออกกลางและยุโรป"

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่ายอดค้าปลีกประจำเดือนธ.ค.ปี 2551 ร่วงลง 2.7% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีทคาดไว้กว่า 2 เท่าที่ 1.2%

บริษัทดีทีเอ็น เมเทโอร์โลจิกซ์ ที่พยากรณ์ว่า อุณหภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐจะอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติในช่วง 6-10 วันข้างหน้า และข่าวที่ว่าซาอุดิอาระเบียได้ลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง 1.7 ล้านบาร์เรล/วันนับตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว และซาอุดิอาระเบียวางแผนจะปรับลดปริมาณการผลิตลงอีกในเดือนก.พ.

ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ฉุดรั้งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคลงด้วยนั้น ทำให้สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกปี 2552 จะลดลง 810,000 บาร์เรล/วันจากปี 2551


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ