สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงใกล้แตะระดับ 36 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ หลังทางการสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดค้าปลีกปรับตัวลดลง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนถึงอุปสงค์น้ำมันที่ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ.ร่วงลง 98 เซนต์แตะที่ 36.30 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยในวันนี้สัญญาน้ำมันลดลง 50 เซนต์ปิดที่ 37.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวลดลงไปแล้ว 27% ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าราคาน้ำมันอาจเคลื่อนไหวลงถึงระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 33.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 9 ม.ค.พุ่งขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล โดยสต็อกน้ำมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากที่ถีบตัว 6.7 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ส่งผลต่อความต้องการน้ำมันดิบ ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันกลั่นขยายตัวสูงขึ้น 6.4 ล้านบาร์เรล
เจอราร์ด ริกบี้ นักวิเคราะห์จาก Fuel First Consulting กล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวสามารถบ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซาและมืดมน"
นอกจากสต็อกน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นแล้ว ยอดค้าปลีกของสหรัฐประจำเดือนธ.ค.ที่ปรับตัวลดลงก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันร่วงลงเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ยอดค้าปลีกร่วงลง 2.7% ซึ่งเป็นระดับที่รุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะตกลง 1.2%