สัญญาน้ำมัน NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ร่วงลงเข้าใกล้ระดับ 36 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทสหรัฐในสัปดาห์ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าความต้องการของผู้บริโภชะลอตัวลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงสุดในรอบหลายสิบปี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมัน NYMEX เดือนก.พ.ร่วงลง 45 เซนต์ แตะที่ 36.06 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับ 36.51 ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ริชาร์ด เออร์วิน นักวิเคราะห์จากธนาคารแบล็คร็อคกล่าวว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทเอกชนในสหรัฐจะอ่อนแอ โดยบริษัทที่จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4 ในสัปดาห์นี้ รวมถึงบริษัท กูเกิล อิงค์, ยูเอส แบงคอร์ป, เจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี), ไมโครซอฟท์ คอร์ป และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
"เราคาดว่าความต้องการพลังงานจะลดลง ซึ่งจะทำให้ราคาปรับตัวลงด้วย สถานการณ์ดังกล่าวทำให้สัญญาน้ำมันดิบเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง" เออร์วินกล่าว
ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2552 ลง 1 ล้านบาร์เรล/วัน เหลือวันละ 85.3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เลวร้ายยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (อีไอเอ) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์พลังงานลงเช่นกัน โดยโอเปคคาดว่า ความต้องการใช้น้ำมันในปีนีจะลดลงวันละ 180,000 บาร์เรล และอีไอเอ ในสังกัดกระทรวงพลังงานของสหรัฐ ระบุว่า ดีมานด์น้ำมันดิบอาจจะลดลงมากกว่านั้นมาก ที่ระดับ 800,000 บาร์เรลต่อวัน
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 19 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ และคาดว่านักลงทุนจะจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของบารัค โอบามา ในวันอังคารที่ 20 ม.ค.นี้