สัญญาน้ำมันดิบเดือนก.พ.ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาเพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์ ก่อนที่สัญญาเดือนก.พ.จะครบกำหนดส่งมอบในวันอังคาร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ หรือ 6.11% ปิดที่ 38.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 40.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 9.76 เซนต์ ปิดที่ 1.3758 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซิน เดือนก.พ.ลดลง 2.41 เซนต์ หรือ 2.06% ปิดที่ 1.1431 ดอลลาร์/แกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 88 เซนต์ ปิดที่ 43.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
ไมเคิล ลินช์ นักวิเคราะห์จากบริษัท สตราเทจิก เอนเนอร์จี แอนด์ อิโคโนมิค รีเสิร์ช กล่าวว่า "นักลงทุนซื้อเพื่อชดเชยการทำช็อตเซลล์ในสัญญาน้ำมันดิบเดือนก.พ. ส่งผลให้ค่าสเปรดระหว่างสัญญาเดือนใกล้กับสัญญาเดือนมี.ค.หดตัวลงเกือบแตะระดับ 2 ดอลลาร์ เทรดเดอร์มองว่าตลาดน้ำมัน NYMEX เกิดภาวะ contango (ราคาสัญญาเดือนใกล้อยู่ในระดับต่ำกว่าราคาสัญญาเดือน ไกล) และมีความผันผวนสูง"
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานคาดการณ์ว่า สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐจะร่วงลงสู่ระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 1 ของปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรลภายในสิ้นปีนี้ และมองว่าตลาดกำลังปรับสมดุลใหม่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
"ราคาน้ำมันปรับตัวผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากปัจจัยมากมาย รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, สภาพอากาศ และวิกฤตการณ์ในภาคการเงิน เราคาดว่าการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และของประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีส่วนทำให้ตลาดปรับสมดุลในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ปริมาณสต็อกน้ำมันลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าอุปสงค์จะเริ่มมีเสถียรภาพ" โกลด์แมน แซคส์กล่าวในรายงานคาดการณ์
กลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2552 จะลดลง 180,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ประธานาธิบดี ฮูโก ชาเวซ ของเวเนซูเอลา กล่าวว่า กลุ่มโอเปคอาจลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงขาลงมาอย่างต่อเนื่อง ให้ดีดตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่ยุติธรรม หลังจากที่การตัดสินใจลดการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วันของที่ประชุมโอเปคเมื่อเดือนที่แล้ว ไม่ส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมากนัก
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล