สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคับคั่งเพราะมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่เกิดวิกฤตการณ์กับภาคการธนาคารทั่วโลก นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาน้ำมันดิบเดือนก.พ.ที่ทะยานขึ้นก่อนครบกำหนดส่งมอบในวันอังคาร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 855.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ หลังากเคลื่อนตัวในช่วง 823.60-866.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 11.175 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนมี.ค.ปิดลบ 2.3 เซนต์ แตะที่ 1.5045 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนเม.ย.ปิดที่ 949.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 184.55 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 1.40 ดอลลาร์
คาร์ลอส ซานเชส นักวิเคราะห์จากซีพีเอ็ม กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคับคั่งเพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตการณ์ในภาคการเงิน โดยซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาสสี่ถึง 8.29 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า แบงค์ ออฟ อเมริกา อาจต้องระดมทุนเพิ่มอีกเพื่อชดเชยการขาดทุนจากเงินกู้หนี้สูญที่พุ่งสูงขึ้น และรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) คาดการณ์ว่าธนาคารจะขาดทุนปี 2551 สูงถึง 4.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับภาคเอกชนในอังกฤษ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่าจะเพิ่มการถือครอง หุ้นใน RBS ถึง 70%
"ความกังวลที่มีต่อภาคการธนาคารเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 300 จุด และยังกระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนเข้ามาในตลาดทองคำ" ซานเชสกล่าว