สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ขยับขึ้นเล็กน้อยเหนือระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล แม้ว่าทั่วโลกรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เลวร้าย ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเอพีงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมี.ค.ขยับขึ้น 37 เซนต์ แตะที่ 41.21 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันลดลง 1.53 ดอลลาร์ปิดที่ 40.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนก.พ.ครบกำหนดส่งมอบเมื่อวานนี้พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ไปปิดที่ 38.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอนขยับขึ้น 12 เซนต์ปิดที่ระดับ 43.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ข่าวความเคลื่อนไหวในแง่ลบจากภาคธุรกิจธนาคารทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะฉุดรั้งให้อุปสงค์น้ำมันดิบลดน้อยลงไปอีก
ทั้งนี้ โรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ออกมาเปิดเผยว่า ธนาคารอาจมีตัวเลขขาดทุน 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2551 ขณะที่รัฐบาลอังกฤษได้อัดฉีดเงินระลอกใหม่เข้าสู่ระบบมากขึ้น เพื่อหวังช่วยเหลือธุรกิจธนาคารภายในประเทศ
นักวิเคราะห์จาก Saxo Capital Markets กล่าวว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจนั้นออกมาในทิศทางที่เลวร้ายมาก ซึ่งไม่มีอะไรที่จะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดน้ำมันได้เลย"
นอกจากนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายได้ทำให้สำนักงานพลังงานสากลปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกลง 1 ล้านบาร์เรล/วันมาอยู่ที่ 85.3 ล้านบาร์เรล/วัน พร้อมทั้งคาดว่า ความต้องการน้ำมันดิบในปีนี้จะทรุดลงอีก 0.6% ต่อเนื่องจากที่ลดลง 0.3% ในปีที่แล้ว และคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ระดับ 1.2% ในปีนี้