สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นต่อเนื่องเหนือระดับ 44 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับข่าวดีจากบริษัทเอกชนของสหรัฐที่รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดจนช่วยหนุนให้แนวโน้มความต้องการน้ำมันดิบปรับตัวดีขึ้น
สำนักข่าวเอพีงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 53 เซนต์ แตะที่ 44.08 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันทะยานขึ้น 2.71 ดอลลาร์ปิดที่ 43.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านสัญญาน้ำมันเบนซินทรงตัวที่ 1.17 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 1.39 ดอลลาร์/แกลลอน
สำหรับสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอนเพิ่มขึ้น 28 เซนต์แตะที่ระดับ 45.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยไอบีเอ็มรายงานผลกำไรไตรมาสสี่ที่ถีบตัวสูงเกินคาด 12% และเชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ช่วยหนุนให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 3.5% ปิดที่ 8,228 จุดเมื่อคืนที่ผ่านมา
เจอร์ราร์ด ริกบี้ นักวิเคราะห์จาก Fuel First Consulting กล่าวว่า "ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกา ขณะเดียวกันพวกเขายังมีมุมมองในแง่บวกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่าประธานาธิบดีคนก่อน"
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะยังจับตารายงานน้ำมันสำรองรายสัปดาห์ที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะรายงานในคืนนี้ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์จากผลสำรวจของแพลตต์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วจะพุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล หลังจากที่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง 7.9 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่น้ำมันกลั่นลดลง 2.25 ล้านบาร์เรล