ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดบวก 12 เซนต์ เหตุนลท.คาดหวังแผนฟื้นฟูศก.สหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Friday January 23, 2009 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเร่งใช้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวนและส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไม่มากนัก หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจทำให้ความต้องการพลังงานทรุดตัวลงมากขึ้น

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 12 เซนต์ หรือ 0.28% แตะที่ 43.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 40.41-45.10 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 3.74 เซนต์ แตะที่ 1.3486 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.พ.ปิดลบ 8.04 เซนต์ แตะที่ 1.0934 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 37 เซนต์ แตะที่ 45.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทอม โคลซา นักวิเคราะห์จากออยล์ไพรซ์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้น สัญญาน้ำมันดิบเดือนมี.ค.ร่วงลงหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ 589,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านร่วงลง 15.5% เหลือเพียง 550,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 16 ม.ค.พุ่งขึ้น 6.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 332.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดีดตัวขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล แตะระดับ 145.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 220.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 1.9% เหลือเพียง 83.3%

"แต่ต่อมาสัญญาน้ำมันดิบเดือนมี.ค.เริ่มดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายและประคองตัวจนสามารถปิดลบได้ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าคณะทำงานของโอบามาจะเร่งใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทิโมธี ไกธ์เนอร์ ว่าที่รมว.คลัง ที่เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผ่านร่างกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจ" โคลซากล่าว

ไกธ์เนอร์เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญว่าจะปฏิรูปโครงการฟื้นฟูมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าการไหลเวียนในตลาดสินเชื่อมีมากพอที่จะกระตุ้นกลไกในตลาดให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์ยังแสดงจุดยืนชัดเจนที่จะใช้แผนเชิงรุกเพื่อปกป้องประชาชนไม่ให้สูญเสียบ้านและตกงาน อีกทั้งจะช่วยพยุงธุรกิจขนาดเล็กให้เดินหน้าต่อไปได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ