สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจในสหรัฐจะบั่นทอนความต้องการด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08.39 น.ตามเวลาสิงคโปร์ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมี.ค.เคลื่อนไหวแตะที่ 45.66 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันร่วงลงหนักสุด 86 เซนต์ หรือ 1.9% ไปอยู่ที่ 45.61 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เดือนมี.ค.ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอนปิดลดลง 91 เซนต์ หรือ 1.9% แตะที่ 47.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้สัญญาน้ำมัน NYMEX ร่วงลง 69% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
โดยสหรัฐซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอาจเผยให้เห็นถึงปัจจัยชี้นำทางเศรษฐกิจที่ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 ปี ขณะเดียวกันตลาดคาดว่าสหรัฐ จะเปิดเผยรายงานที่ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง 5.5% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ซึ่งจะเป็นระดับที่ร่วงลงแรงที่สุดในรอบ 26 ปี
"ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า อุปสงค์น้ำมันหรือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น" เคน ฮาเซกาว่า นักวิเคราะห์จากนิวเอจ กรุ๊ปกล่าว "โดยระยะนี้ ราคาน้ำมันอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 40-50 ดอลลาร์/บาร์เรล"
นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวยังกระตุ้นให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และสำนักงานพลังงานสากลคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะปรับตัวลดลงในปีนี้ โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา กลุ่มโอเปคมีมติปรับลดเพดานการผลิตลง 9% ซึ่งเริ่มมีผลไปตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เพื่อสร้างเสถียรภาพของราคาน้ำมัน