สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกในตลาดสิงคโปร์ช่วงเที่ยงวันนี้ปรับตัวลดลงหลุดกรอบ 46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐส่งสัญญาณเตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะยิ่งฉุดรั้งความต้องการน้ำมันให้ลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์เที่ยงวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนมี.ค.ร่วงลง 70 เซนต์แตะระดับ 45.77 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 2.80 ดอลลาร์ปิดที่ 46.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านสัญญาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าลดลง 1.44 เซนต์สู่ระดับ 1.14 ดอลลาร์/แกลลอน ขณะที่น้ำมันฮีทติ้งออยล์ลดลง 1.55 เซนต์ แตะที่ 1.44 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาก๊าซธรรมชาติเดือนก.พ.ปรับตัวลง 11.7 เซนต์แตะระดับ 4.40 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอนอ่อนตัวลง 73 เซนต์ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ สหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงอีกก่อนจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ปรับลดคาดการณ์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ 8.25 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานได้ 4 ล้านตำแหน่ง
คลาเรนซ์ ชู นักวิเคราะห์จากฮัดสัน แคปิตอล อีเนอร์จีย์ ในสิงคโปร์กล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันดิบที่อ่อนแอจากทั่วโลกจะยังคงส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่สูงขึ้นในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงการที่ชาวสหรัฐลดการใช้น้ำมันท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยในรอบ 10 ปี และคาดว่าอุปสงค์จะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2552
ขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ในวันนี้ค่อนข้างเหงียบเหงา เนื่องจากหลายประเทศในเอเชียต่างเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ขณะที่นักลงทุนจะยังคงจับตาผลประกอบการภาคเอกชนของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน